5 หลักฐานที่ปรากฏของนาซ่าว่า UFO ต่างดาว มีจริงหรือไม่

NASA-pic

 

ufo1pic

เรื่องราวลี้ลับที่เกิดขึ้นในสังคมที่ในบางเรื่องหลักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่สามารถที่จะหาข้อพิสูจน์ได้ เช่นเดียวกันกับทฤษฎีเรื่องของ UFO หรือเรื่องมนุษย์ต่างดาวที่หลายคนได้ตั้งข้อสงสัยว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกมีอยู่จริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนที่อ้างว่าพบเห็นวัตถุประหลาดคล้ายกับ UFO เหนือน่านฟ้าบริเวณต่าง  ๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็ปรากฏหลักของนาซ่าว่า UFO ต่างดาวมีจริงหรือไม่  และในบทความนี้เราก็จะได้มาไขข้อสงสัยไปพร้อมกัน

แน่นอนว่ามนุษย์ต่างดาวในความคุ้นชินของใครหลายคนที่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับที่อาศัยอยู่ที่ดาวดวงอื่นที่มีวิทยาการที่ล้ำหน้า  และ นำยานอวกาศมายังดาวโลกของเรา แต่ถึงอย่างไรก็ดีข้อคิดเห็นในเรื่องนี้ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ออกมาอย่างเป็นทางการออกมาอยู่ดี แต่หลายต่อหลายครั้งที่มีข่าวลือเรื่องมนุษย์อวกาศปล่อยออกมาเป็นจำนวนมากให้ผู้คนแตกตื่นบ้างก็ออกมาในรูปแบบของภาพถ่าย หรือแม้แต่คำบอกเล่า บ้างก็กล่าวว่ามนุษย์อวกาศเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครสามารถทราบได้

ซึ่งเรื่องเล่านี้ก็ได้มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่เรียกตนเองว่าองค์กรนาซ่าได้เดินทางออกไปสำรวจยังนอกโลก ที่เราเรียกกันว่าอวกาศว่าแท้ที่จริงแล้วในอวกาศมีสิ่งมีชีวิตอยู่หรือไม่ แน่นอนว่าอย่างที่เราทราบกันก็คือ อวกาศเป็นที่ที่อยู่ห่างไกลจากโลกของเรามาก นอกจากนี้ยังเป็นดินแดนรกร้างที่มีสภาวะความเป็นอยู่ สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม และไม่เอื้อต่อการอาศัยอยู่ของมนุษย์ ซึ่งนั่นก็ทำให้นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ตั้งใจว่าสามารถที่จะเดินทางไปยังสถานที่แห่งนั้นเพื่อสำรวจว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่หรือไม่ จนกลายมาเป็น 5 หลักฐานที่พิสูจน์ว่ามนุษย์อวกาศไม่มีอยู่จริงหรือไม่

  • การตัดสัญญาณภาพขณะถ่ายทอดสดของการท่องอวกาศ แน่นอนว่าเมื่อยานอวกาศของนาซ่าที่เดินทางไปท่องอวกาศเพื่อเจาะหาสิ่งมีชีวิตในอวกาศ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ดี ขณะที่ถ่ายทอดสัญญาณภาพสดอยู่นั้นก็ได้มีเหตุให้นาซ่าต้องยุติการถ่ายทอดสดลง เมื่อเกิดมีดวงไฟ 3 ดวง พุ่งออกมาคล้ายกับยานอวกาศจนเป็นเหตุให้ภาพถ่ายทอดสดถูกยุติลงไป
  • ภาพถ่ายสิ่งมีชีวิตเมื่อนิว อาร์มสตรอง เหยียบถึงดวงจันทร์ แน่นอนว่าเหล่ามนุษย์ชาติจะต้องจารึกเหตุการณ์ครั้งสำคัญของมนุษยชาตินี้เอาไว้เมื่อมนุษย์โลกอย่างเราสามารถเดินทางขึ้นไปถึงดวงจันทร์ได้เป็นครั้งแรก แต่ทว่าภาพก็ได้บันทึกเหตุการณ์สิ่งมีชีวิตลักษณะประหลาดคล้ายมนุษย์ต่างดาวก่อนที่คลิปจะถูกตัดจบไป จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่าแท้ที่จริงสิ่งนั้นคืออะไร
  • ยานอวกาศที่ลอยเคว้งอยู่ในอวกาศที่นาซ่าอ้างว่าเป็นขยะอวกาศ แต่ลักษณะการโคจรของยานอวกาศที่ว่าเหล่านี้มีที่มาอย่างไรกันแน่
  • องค์การนาซ่าได้ออกมาเปิดเผยวัตถุประหลาดที่โคจรเข้าใกล้สถานีอวกาศของนาซ่า ซึ่งนั่นก็เป็นี่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า วัตถุประหลาดเหล่านั้นเหตุใดจึงมีความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปแบบ และเข้ามาใกล้กับสถานีอวกาศได้มากมายขนาดนั้นกัน ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นปริศนา
  • เรื่องราวของการแทรกแซงสัญญาภาพของวัตถุประหลาดใกล้สถานีอวกาศ ซึ่งมียานปริศนาใกล้ ๆ กับสถานีอวกาศของนาซ่า ซึ่งเมื่ออมันเคลื่อนเข้ามาใกล้พบว่ามีการขัดข้องของสัญญาณคล้ายกับการแทรกแซงนั่นเอง

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อสังเกตของการมีอยู่ของUFO หรือมนุษย์อวกาศ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ผู้อ่านจำเป็นที่จะต้องมีวิจารณญาณในการตัดสินใจเองว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นมีจริงหรือไม่  และถ้าไม่เหตุการณ์ปริศนาเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

ufo และความเชื่อของบุคคล

ufo_picsneww

UFO หรือวัตถุประหลาดนอกโลก เป็นสิ่งที่ถือว่ามันคือปริศนาข้อใหญ่สุดของมนุษยชาติเราเลยว่า เราจะสามารถค้นหาคำตอบนี้ได้หรือไม่ แม้ปัจจุบันเราจะมีเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นมามากกว่าเดิมมากก็จริงแต่การพิสูจน์ความจริงข้อนี้ก็ยังเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรอยู่เหมือนเดิม UFO ไม่ได้เป็นเพียงแค่วัตถุเท่านั้น บางกลุ่มยังยกว่ามันเป็นความเชื่อด้วย ซึ่งความเกี่ยวกับ UFO มีเรื่องอะไรบ้าง เรามาลองดูกัน

UFO เป็นผู้สร้างโลก

คำถามอีกข้อหนึ่งที่มนุษย์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้นั่นก็คือ เราเกิดมาจากไหน มนุษย์เรามาได้อย่างไร โลกเราเกิดมาได้อย่างไร คำถามเหล่านี้ได้ถูกแทนที่คำตอบด้วย UFO หลายคนเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นผู้ให้กำเนิดมนุษย์ขึ้นมา เรียกว่าเป็นพระเจ้าผู้สร้างมนุษย์ก็ได้ รวมถึงการสร้างสรรพสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายทุกสิ่งมีชีวิตของโลกใบนี้ด้วย

UFO คือผู้ครองโลกมาก่อน

ความเชื่อต่อไปเกี่ยวกับ UFO ก็คือ พวกเค้าเชื่อกันว่า เดิมที่โลกของเรานั้นปกครองโดย UFO มาก่อน พวกเค้ามาพร้อมกับอารยธรรม เทคโนโลยีที่สูงกว่าโลกในยุคปัจจุบันนี้เสียอีก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เค้าเลือกที่จะทิ้งโลกใบนี้ไป เหลือไว้เพียงแค่เศษซากอายธรรมบนโลกใบนี้เท่านั้น กลุ่มนี้จะมีความเชื่อจากแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ที่สามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้แบบไม่น่าเป็นไปได้ อย่าง เกาะอีสเตอร์ ในเขตพื้นที่ของประเทศชิลี เกาะที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิคแบบไม่มีทางที่ใครจะเข้าไปใกล้ได้ง่าย แต่บนเกาะกลับมีหินขนาดใหญ่ที่แกะสลักหน้าคนเอาไว้มากถึง 800 ชิ้น แม้จะมีนักประวัติศาสตร์บอกว่านี่คือฝีมือของชาวโพลีนีเซียนในอดีต แต่การจะขนย้ายหินหนักถึง 75 ตันมาได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ลองนึกภาพปี ค.ศ. 400 ที่ชนเผ่านี้ดำรงอยู่ คงยังไม่มีเครื่องมือทันสมัยที่จะจัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน ความเชื่อกลุ่มนี้จะมีการแสดงออกเรื่องของพิธีกรรมบางอย่างที่บางอันก็ดูสร้างสรรค์ แต่บางอันก็ไม่ใช่เลยเพื่อบูชากลุ่มลัทธิ UFO ตามเรื่อง

UFO อยู่ร่วมกับเรา

กลุ่มความคิดต่อไป อันนี้น่าสนใจ พวกเค้าเชื่อว่า UFO ไม่ได้หนีไปไหน แต่พวกเค้าเข้ามาแอบแฝงอยู่กับมนุษย์เรามานานแล้ว พวกเค้าอาจจะเป็นคนที่เดินผ่านไปผ่านมา หรือ อาจจะเป็นใครสักคนที่เรานึกไม่ถึงก็เป็นได้ แต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวและไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายต่อโลก ทำให้พวกเค้าไม่เปิดเผยตัวตนต่อประชาชนชาวโลก อยู่ร่วมกันแบบเงียบๆให้มีความสุขจะดีต่อตัวเองและชาวโลกมากกว่า ความเชื่อนี้จะสอดคล้องกับกลุ่มคนที่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO มาก่อนไม่ว่าจะเป็นการได้เห็น ได้ยิน หรือสัมผัสกับ UFO, มนุษย์ต่างดาว ด้วยตัวเองเท่านั้น ซึ่งหลายกรณีเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนเทคโนโลยีการบันทึกภาพเสียง อาจจะไม่ดีเท่าไรหรือไม่มี ทำให้ไม่สามารถสร้างหลักฐานยืนยันคำพูดตัวเองได้

UFO กับ แอเรีย 51

ความเชื่อเกี่ยวกับ UFO ชุดต่อไปอันนี้โด่งดังมากนั่นก็คือ แอเรีย 51 พื้นที่นี้หมายถึงพื้นที่พิเศษทางการทหารของประเทศสหรัฐอเมริกา เอาไว้สำหรับทดลองอาวุธ และซ้อมรบโดยเฉพาะ กลุ่มที่มีความเชื่อบอกว่า พื้นที่พิเศษนี้มีการเก็บซากของ UFO เอาไว้อยู่ ซึ่งเรื่องราวความลับของ แอเรีย 51 เป็นสิ่งที่ดำมืดและไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะชนได้เนื่องจากเป็นความลับสุดยอดระดับประเทศ เรือ่งนี้แม้ว่าทางการทหารสหรัฐอเมริกาจะออกมาปฏิเสธหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความคลางแคลงใจในเรื่องนี้น้อยลง กลับกันเพิ่มขึ้นด้วย พวกเค้าเชื่อว่ายิ่งออกมาบอกว่าไม่มีนั่นแหละมี และ UFO เหล่านั้นคือพื้นฐานทางเทคโนโลยีทางการทหารของสหรัฐอเมริกาในยุคนี้และยุคต่อไป แล้วเพื่อนๆล่ะคิดว่าตัวเองมีความเชื่อแบบไหนกับ UFO

 

 

หลักฐาน Ufo เกี่ยวกับการมีตัวตนของมนุษย์ต่างดาว

ufopicc1

ufopic

โลกของเราใบนี้มีจะมีวิธีการพิสูจน์ความจริงทางวิทยาศาสตร์มากมายหลายแบบ แต่บางคำถามก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าแท้จริงแล้วคำตอบเป็นอย่างไร หนึ่งในคำถามยอดฮิตเลยก็คือ เราเป็นคนกลุ่มเดียวบนจักรวาลนี้หรือเปล่า พูดง่ายๆว่า UFO มีจริงหรือไม่ หลายคนที่เชื่อว่ามีพวกเค้าต่างก็หาหลักฐานมาสนับสนุนความคิดอย่างเต็มที่ หลักฐานเรื่องราวที่ว่ามามีเรื่องอะไรน่าสนใจบ้าง เราจะย้อนกลับไปดูกัน

การค้นพบมนุษย์ต่างดาวของทหารนิวซีแลนด์

ย้อนกลับไปช่วงประมาณปี 1954 ได้มีเอกสารค้นพบว่าโลกของเราเคยมีมนุษย์ต่างดาวมาเยี่ยมเยียนหลายครั้ง เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อกองทัพทหารของประเทศนิวซีแลนด์ได้ทำการสำรวจและค้นพบว่าได้เจอมนุษย์ต่างดาวขึ้นมา นอกจากการเจอยังมีการวาดภาพสเก็ตช์เอาไว้เป็นหลักฐานการเจอมนุษย์ต่างดาวอีกด้วย หลักฐานน่าสนใจตรงที่ว่ามนุษย์ต่างดาวที่มาเยี่ยมโลกของเรานั้นสวมหน้ากากฟาโรห์ วัฒนธรรมของชาวอียิปต์อีกด้วย(น่าแปลกใช่ไหมล่ะ)

การพบวัตถุที่เร็วกว่าที่คาด

อีกหนึ่งการค้นพบสิ่งที่คาดว่าจะเป็น UFO นั่นก็คือการค้นพบจานบิน หรือ วัตถุความเร็วแสงจนถึงเร็วกว่านั้นจากเหตุบังเอิญต่างๆนานาที่เกิดขึ้น อย่างแรกเลยมีการค้นพบว่าในท้องฟ้าเหนือท้องทุ่งไซบีเรีย มีการจับสัญญาณเสียงของวัตถุลึกลับคล้าวกับเสียงผู้หญิง แต่ภาษาที่ส่งออกมาเป็นภาษาที่ไม่สามารถแปลด้วยภาษาใดๆบนโลกใบนี้ได้เลย ไม่เพียงแค่ยังค้นพบวัตถุที่มีความเร็วมากกว่าจนไม่สามารถจับภาพได้ทัน คาดกันไว้ว่าน่าจะเร็วประมาณ 6,000 ไมล์ต่อชั่วโมง

อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่คล้ายกันแต่คราวนี้ปรากฏขึ้นในประเทศไทยบ้านเรา นั่นก็คือ ได้มีคนบันทึกเหตุการณ์วัตถุประหลาดบนท้องฟ้าเอาไว้ได้ เรื่องราวเกิดขึ้นจากพนักงานปิโตเลียมคนหนึ่งได้ไปเที่ยวที่ วัดถ้ำพระภูวัว อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ทีนี้ระหว่างที่บันทึกภาพความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่โดยรอบนั้น กลับได้พบวัตถุประหลาดบินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งพอไปลองทดสอบกับการถ่ายภาพเครื่องบินหรือ เฮลิคอปเตอร์ ก็ยังช้าเกินไป จนเป็นที่สงสัยว่ามันคืออะไรมาจนถึงทุกวันนี้
ศพประหลาด

อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่คาดกันว่า นี่คือเอเลี่ยนที่มาจากนอกโลก นั่นก็คือ เหตุการณ์พบศพสิ่งมีชีวิตประหลาดที่เจอทางตอนใต้ของประเทศรัสเซีย ศพดังกล่าวดูไม่เหมือนมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตไหนเลยของโลกใบนี้ รูปร่างของศพอยู่ในสภาพขาข้างขวาขาด ร่างกายผอมแห้ง รูโหว่บนปากและจมูกที่กองหิมะ ซึ่งทางการก็นำไปพิสูจน์ซากดังกล่าวว่ามันคืออะไร จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบว่านี่คือมนุษย์ที่ผิดเพี้ยนไป สิ่งมีชีวิตอื่น หรือ ตัวอะไรกันแน่

ลูกไฟเหนือนครศักดิ์สิทธิ์

เหตุการณ์ต่อไปที่เชื่อว่ามันคือความสามารถของมนุษย์ต่างดาว นั่นก็คือ เหตุการณ์ลูกไฟเหนือนครศักดิ์สิทธิ์ นครเยลูซาเล็ม ได้มีคนบันทึกเหตุการณ์ที่ประหลาดและไม่น่าเชื่อเอาไว้ว่า กล่าวคือ ได้มีแหล่งพลังงานก้อนหนึ่งคล้ายกับลูกบอลไฟ ปรากฏขึ้นเหนือแท่นบูชาของศาสนาสถานแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้นลูกไฟดังกล่าวยังมีการเคลื่อนไหวเป็นจังหวะคล้ายกับสิ่งมีชีวิตมากกว่าการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ หลังจากเคลื่อนไหวได้สักพัก ก็บินหายไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว  พวกเค้าเชื่อกันว่าลูกไฟนี้คือมนุษย์ต่างดาวที่มาสักการะนครศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนเอามาตีความกันอย่างต่อเนื่องก็คือ ในแวดวงการทหารได้มีการปกปิดความลับเกี่ยวกับซากเครื่องบินที่ทันสมัยกว่าของโลกมนุษย์มานานแล้ว จากนั้นได้มีการเอาชิ้นส่วนเศษซากเหล่านั้นมาพัฒนาต่อเนื่องจนกลายเป็นอุตหสาหกรรมเครื่องบินรบสมรรถนะสูงที่หลายประเทศกำลังทำอยู่ ก็ต้องมาดูกันว่าในอีก 10-100 ปีข้างหน้า เราจะได้เห็นเอเลี่ยนจริงหรือไม่

ufo ต่างดาว เป็นความจริง หรือความเชื่อ

UFOpicc

หนึ่งในคำถามที่มนุษย์เฝ้าหาคำตอบอยู่ตลอดเวลาหลังจากได้เริ่มออกไปสำรวจอวกาศก็คือ โลกเป็นดาวดวงเดียวหรือเปล่าที่มีสิ่งมีชีวิต ยังมีสิ่งมีชีวิตอะไรอีกบ้างบนจักรวาล อวกาศอันไกลโพ้นนั้น ถามว่า UFO มีจริงไหม เรื่องนี้มีทั้งฝ่ายเชื่อ และฝ่ายค้าน เรามาดูกันว่า ฝ่ายที่เชื่อและฝ่ายที่ค้านมีเหตุผลสนับสนุนอะไรกันบ้าง

ฝ่ายที่เชื่อว่ามี

สำหรับฝ่ายสนับสนุน ความเชื่อที่ว่ามีมนุษย์ต่างดาวจริงๆ เหตุผลสนับสนุนมีหลายข้อ อย่างเช่น กลุ่มคนที่เชื่อเป็นเพราะว่าเค้าเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการได้เห็น การได้ยิน การติดต่อด้วยวิธีการต่างๆ อย่างเช่น การได้เห็นจานบิน UFO เยอะแยะมากมาย  บางคนอาจจะบอกว่าเคยได้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวกันเลยทีเดียว ซึ่งติดต่อจากความคิดในฝัน ในเหตุการณ์ต่างๆมากมาย ซึ่งกลุ่มนี้เอาจริงๆประสบการณ์ที่พวกเค้าเล่ามาบางอย่างมันก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องจริงมากแค่ไหน แม้ปัจจุบันจะมีการถ่ายติดภาพ UFO มากมาย แต่กลับไม่สามารถพิสูจน์ได้จริงๆสักทีว่าเป็นจานบิน UFO หลายครั้งภาพที่เอาออกมาโชว์กลายเป็นภาพตัดต่อไป กลายเป็นเรื่องแหกตาไปอีก

อีกหนึ่งเหตุผลของกลุ่มสนับสนุนว่ามี พวกเค้าเชื่อกันว่า มนุษย์ต่างดาวเข้ามาอยู่ในโลกของเรานานแล้ว แต่เค้ามีเหตุผลบางอย่างที่ไม่ได้แจ้งกับเรา บางคนเชื่อว่า มนุษย์ต่างดาวได้ปะปน ปลอมตัวในกลุ่มมนุษย์เรามาตลอด หรือ บางส่วนเชื่อว่า พวกเค้ามาเพื่อทำภารกิจบางอย่างแล้วก็จากพวกเราไป โดยทิ้งสัญลักษณ์บางอย่างเอาไว้เพื่อเตือนใจ อย่างเช่น กลุ่มหินสโตนเฮน ที่ยังไม่มีใครไขปริศนาได้ว่าก้อนหินขนาดยักษ์เหล่านั้นมาจากไหน ใครทำ ทำเพื่ออะไรเป็นต้น

ฝ่ายคัดค้าน

อีกด้านหนึ่ง พวกเค้าไม่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นสิ่งที่มีจริง พวกเค้ามีความเชื่อบางอย่าง พร้อมทั้งหาเหตุผลมาหักล้างกลุ่มที่สนับสนุนนั้นด้วย อย่างเช่น ภาพที่ถ่ายติด UFO ทั้งหลาย ก็จะมีการเอาภาพนั้นไปวิเคราะห์เพื่อหาความจริง ซึ่งหลายครั้งก็ยอมรับว่า กลุ่มนี้สามารถหักล้างได้ด้วยการบอกว่าเป็นภาพตัดต่อ หรือ บางครั้งพวกเค้ามักจะอ้างว่า สิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่ UFO แต่เป็นอาวุธบนท้องฟ้า ยานบิน ยานอวกาศที่เกิดจากการทดสอบอาวุธของทหารมากกว่า สองพวกเค้าเชื่อว่าหากมีสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกมีจริง เทคโนโลยีของโลกเราตอนนี้ก็พัฒนาไปมาก อาจจะต้องจับเค้าลางอะไรได้บ้างแล้ว

คำถามนี้เชื่อว่า หากเราหวังจะได้คำตอบอย่างชัดเจน ก็คงต้องสำรวจอวกาศให้ไกลกว่านี้ อย่างน้อยก็ต้องอีกประมาณ 100 ปี นั่นแหละ หากถึงเวลานั้นเราค่อยมาดูกันอีกครั้งว่า สุดท้ายแล้ว โลกจะเป็นบ้านหลังสุดท้ายของสิ่งมีชีวิตจริงๆหรือไม่

นิยามของคำว่ามนุษย์ต่างดาว กับคุณพีท ทองเจือ

ufopicc

ถ้าให้พูดถึงสิ่งที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้คุณจะคิดถึงเรื่องอะไร? คงมีไม่ใช่น้อยที่คิดถึงเรื่องจานบิน UFO มนุษย์ต่างดาว และต่างตั้งคำถามต่อไปอีกว่ามีจริงหรือไม่ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ยืนยันแน่ชัด แต่เรื่องแบบนี้ก็ไม่ควรปิดกั้นความคิดเห็นที่แตกต่างเพราะหลายๆ คนมีความเชื่อว่า จานบินUFO มนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริง หนึ่งในนั้นก็คือนักแสดงหนุ่มผู้มากความสามารถ พีท ทองเจือ ที่เรากำลังจะพูดถึง

มนุษย์ต่างดาวจากนิยามของคุณพีท ทองเจือ

สำหรับคุณพีท ทองเจือ มีนิยามในเรื่องของจานบิน UFO มนุษย์ต่างดาวมากมาย โดยคุณพีทสนใจในเรื่องเหล่านี้ตั้งแต่สมัยเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับกาแลคซี่นอกโลก ดาวนพเคราะห์ คุณพีทมีความเชื่อที่ว่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ต่างดาว ผู้ซึ่งอาศัยอยู่นอกโลกเป็นสิ่งมีชีวิตที่มาดี ไม่ได้มีความคิดร้ายที่จะมาทำเรื่องเสียหาย หรือยึดครองโลก หากเราได้พบเห็นไม่ว่าจากที่ไหนในโลกก็ตาม ทุกครั้งที่มนุษย์ต่างดาวมาเยือน หรือแสดงตัวให้เราเห็นมันบ่งบอกว่าพวกมนุษย์ต่างดาวต้องการมาเตือนบางสิ่งบางอย่างที่อาจทำร้ายโลกก็เป็นได้

บทสัมภาษณ์คุณพีทเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวได้เล่าว่า อันที่จริงก็ยังไม่เห็นมนุษย์ต่างดาวตัวเป็นๆ แต่สิ่งที่เห็นอยู่บ่อยครั้งก็คือ จานบิน UFO ที่บางครั้งก็เห็นเป็นพลังงานที่มีลักษณะเหมือนแสงไฟกระพริบ ซึ่งตัวคุณพีทก็จะเก็บภาพ หรือวิดีโอรวบรวมเอาไว้ ถามว่ามีเยอะไหม ก็บอกเลยว่ามาก ทั้งๆ ที่ก็ลบไปบ้างแล้ว ทั้งนี้คุณพีทยังบอกต่ออีกว่าตนเองได้ทำการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับจานบิน UFO ที่พบเห็นบ่อยมากที่สุดเป็นลักษณะอย่างไร มีมากน้อยแค่ไหน รวมถึงรวบรวมรูปร่างของจานบิน UFO ด้วย เช่น จานบินที่มีรูปร่างเช่นเดียวกับลูกข่าง หรือมีแสงออกมา บ้างก็เหมือนปากกา เหมือนดินสอ คือเป็นแท่งยาวๆ เรียกว่าทรงซิกการ์

สถานที่ที่คุณพีทได้เห็นจานบิน UFO มีทั้งในประเทศไทยเราเอง และต่างประเทศด้วย ซึ่งเมื่อปี 2548 ที่ผ่านมา สารคดีรายการหนึ่งสนใจเรื่องการเห็นจานบิน UFO มนุษย์ต่างดาวของคุณพีท ทองเจือ ที่มีข่าวว่าคุณพีทเห็นที่เขากะลา จึงติดต่อให้มาร่วมรายการในสารคดีที่มีชื่อว่า UFO in Thailand โดยทีมงานได้ตั้งกล้องถ่ายทำไว้ 4 วัน เพื่อเก็บภาพจานบิน UFO มนุษย์ต่างดาวที่บินผ่านไปมา เหตุที่ต้องตั้งกล้องถึง 4 วัน เป็นเพราะวันที่ถ่ายทำ คือวันที่ 6 มีนาคม 48 กล้องไม่สามารถบันทึกภาพขณะที่จานบินกำลังร่อนไปมาได้ แต่พอจานบินหายไปกล้องกลับถ่ายได้ จึงจำเป็นต้องตั้งกล้องหลายวัน

UfO มีจริง….หรือไม่ ?

UFO มันเป็นสิ่งที่ทุกชาตินั้นเป็นความเชื่อมาอย่างนมนาน ที่สำคัญคือเล่าไปในทำนองเดียวกันอีกด้วย แต่ไม่มีใครนั้นบอกได้ว่ามันคือเรื่องจริงหรือเรื่องหลอกลวง แต่ก็ยังไม่ได้ปรากฏการณ์ทางด้านวิทยาศาสตร์ วันนี้เราจะมาพูดในเรื่องเกี่ยวกับ UFO กันนะครับ ทุกครั้งที่เกิดปรากฏการณ์มีแสงวูบวาบบนท้องฟ้า ไม่มีที่ไปที่มา มนุษย์เราทั่วไปนั้นก็มีความเชื่อว่านั่นคือ ยูเอฟโอ หรือยานอวกาศที่มนุษย์ต่างดาวนั้นมีตัวตนจริง และทำการมาสำรวจโลกของเรา ซึ่งยานมีลักษณะคล้ายจานบิน มีแสงรอบคัน โดยส่วนใหญ่จะเกิดมากที่ฝั่งตะวันตก ที่มักจะมีเรื่องเล่า โดยมีเรื่องเล่าว่ามีมนุษย์ต่างดาวนั้นได้จับตัวมนุษย์ไปสำรวจ และได้ปล่อยมนุษย์กลับมา จากนั้นมนุษย์คนดังกล่าวก็ได้ให้สัมภาษณ์ข่าวว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นมีลักษณ์ผิวสีเทาๆ มีลักษณ์เป็นรูปร่างผอมเตี้ย มีความสูงประมาณ 4 ฟุต ไม่มีผม หัวโตมีนิ้วมือ 3 นิ้วมีริมฝีปากเล็ก และไม่มีหูไว้สื่อสาร เนื่องจากมนุษย์ต่างดาวนั้นใช้การสื่อสารทางจิต โดยไม่มีการพูดการจา

 

เมืองไทยก็เช่นเดียวกันกับความเชื่อที่ไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้สำหรับเรื่องนี้ บ้างก็เห็นลอยกลางอากาศในบริเวณของกรุงเทพมหานคร บ้างก็เห็นตามสถานที่ต่างจังหวัด ลักษณะคล้ายกันกับจานที่ได้เคยกล่าวไว้เบื้องต้น บางคนก็เคยเห็นแม้กระทั่งลำแสง เอาเป็นว่าเป็นเรื่องที่แปลกนะครับสำหรับเรื่องเล่านี้ ที่ปากต่อปากว่ามีความคล้ายกันเหลือเกิน แล้วคุณละคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนที่มีภาพคล้ายกันกับเรื่องที่เล่าก็สามารถส่งภาพมาได้นะครับ

พบ UFO ในฐานทัพในแอนตาร์คติก

เรื่องราวแปลกประหลาดบนโลกใบนี้ยังมีอะไรให้ได้ค้นหากันอีกไม่รู้จบ แต่สิ่งหนึ่งที่มนุษย์บนโลกทุกคนอยากรู้เป็นที่สุดก็คือจริงๆ แล้วนอกจากโลกของเราที่มีมนุษย์อาศัยอยู่กว่า 700 ล้านคน ในจักรวาลอันแสนกว้างใหญ่นอกโลกยังมีกลุ่มคนที่ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรเหมือนกันกำเนิดขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งคนเราก็ให้สมญานามกลุ่มเหล่านั้นว่ามนุษย์ต่างดาว เอาเข้าจริงก็ยังไม่มีใครสามารถหาข้อสรุปชัดเจนได้ว่ามนุษย์ต่างดาวที่เรากล่าวถึงกันมายาวนานมีจริงหรือไม่มีจริง ถ้ามีจริงรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วเคยมาสัมผัสกับโลกของเราหรือไม่ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถยืนยันได้กระทั่งได้เกิดเหตุการณ์หนึ่งที่ว่ากันว่าอาจเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับการมีอยู่จริงของกลุ่มมนุษย์ต่างดาวก็ได้นั่นคือ การค้นพบ UFO ในฐานทัพบริเวณแอนตาร์คติก

กระหึ่ม ค้นพบ UFO ในฐานทัพบริเวณแอนตาร์คติก

จัดว่าเป็นข่าวใหญ่สำหรับผู้ให้ความสนใจเรื่องของมนุษย์ต่างดาวและ UFO อย่างมาก กับเรื่องราวที่ Google Earth ได้มีการสอดส่องไปเรื่อยๆ ตามพื้นที่ต่างๆ บนโลกใบนี้กระทั่งไปพบเข้ากับสิ่งที่มีลักษณะคล้ายอุโมงค์ เป็นอุโมงค์ปริศนาจนหลายคนคิดว่ามันอาจเป็นทางเข้าฐานทัพของกลุ่มมนุษย์ต่างดาวก็เป็นได้ โดยอุโมงค์ทางเข้าดังกล่าวนี้ได้ค้นพบขึ้นบริเวณแอนตาร์คติก ด้วยลักษณะของปากทางเข้ามีความสูง 30 ม. กว้าง 90 ม. ทำให้เกิดความคิดต่างๆ นานาๆ ว่าจากขนาดทางเข้าที่ใหญ่โตมโหฬารน่าจะเป็นทางเข้าออกของ UFO ก็ได้ แล้วพอขยับไปอีกด้วยระยะทางไม่ไกลกันมากนักยังอุตส่าห์พบปากทางเข้าอีกช่องหนึ่ง ลักษณะปากทางเข้าที่ค้นพบครั้งใหม่ล่าสุดนี้มีลักษณะเป็นเหมือนโดม ผู้พบเห็นยืนยันว่าลักษณะของทางเข้าดังกล่าวยังไงก็ไม่น่าใช่ปากทางเข้าของถ้ำซึ่งเกิดตามธรรมชาติแน่นอน จะต้องมีใครมาสร้างเอาไว้เพื่อให้งานอะไรสักอย่างแต่ยังหาคำตอบชัดเจนไม่ได้ว่าคืออะไรยังไง กระนั้นการค้นพบดังกล่าวนี้เป็นการค้นพบที่ยังคงต้องรอข้อพิสูจน์ต่างๆ อีกมากมาย ยังไม่สามารถด่วนสรุปสิ่งใดได้ทั้งสิ้นจนกว่าทั้งหมดจะได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ

ยังคงไม่มีใครสามารถให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องมนุษย์ต่างดาวได้ชัดเจน นั่นเพราะเราไม่รู้จริงๆ ว่าสุดท้ายแล้วมนุษย์ต่างดาวที่พูดถึงกันนี้มีจริงหรือไม่ หากมีจริงหน้าตาเป็นอย่างไร ไม่มีใครสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เรายังคงต้องศึกษาต่อไปก็คือ ถ้านอกโลกมีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นเป็นความน่าเรียนรู้อีกระดับว่าเขามีชีวิตหรือการอาศัยอยู่ตรงพื้นที่นั้นๆ อย่างไร แล้วจะเป็นข้อมูลชิ้นใหม่แห่งมวลมนุษยชาติ

ความเชื่อเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว UFO

 

UFO picture

เรื่องของมนุษย์ต่างดาวเป็นสิ่งที่พูดถึงกันมายาวนานมากเรียกว่าคนในยุคนี้ตั้งแต่เกิดมาก็พบเจอกับความเชื่อเรื่องดังกล่าวเล่าขานว่าบินมาด้วย UFO กันตลอด ดังนั้นจึงเกิดเป็นความเชื่อที่ค่อนข้างหลากหลายมากเกี่ยวกับสิ่งนอกโลกที่ไม่มีใครรับรู้ได้อย่างแน่ชัดว่ามีจริงหรือไม่จริงประการใด กระนั้นเราลองมาดูว่ามนุษย์มีความเชื่ออะไรเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งแปลกประหลาดนอกโลกนี้บ้าง แต่ละเรื่องมันก็ทำให้น่าคิดอยู่ไม่น้อยเหมือนกันว่าอาจเกิดขึ้นจริงได้

ความเชื่อต่างๆ เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว UFO

  1. มนุษย์ต่างดาวต้องการมาดูการเจริญเติบโตของโลก – ความเชื่อนี้ว่ากันว่าพวกเขาไม่ได้มาทั้งดีและร้ายอะไรทั้งนั้น พวกเขาอาจรู้สึกเหมือนกับคนเราเวลาเจอสิ่งแปลกประหลาดจึงทำให้อยากเฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ พร้อมสังเกตว่ามีวิวัฒนาการพัฒนาไปด้านไหนบ้างแล้ว เรียนรู้การเจริญเติบโตเกี่ยวกับมนุษย์โลกแบบช้าๆ แต่ก็ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวอะไรด้วย
  2. ต้องการค้นหาแหล่งทรัพยากรบางอย่าง – เคยมีหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องการค้นพบ UFO ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป เช่น เขตแอนตาร์กติก หรือจุดเทือกเขาที่มีความทุรกันดารสูงในหลายประเทศ จึงเกิดความเชื่อขึ้นว่ามนุษย์ต่างดาวอาจต้องการมาค้นหาทรัพยากรอะไรบางอย่างเพื่อเอาไปยังดาวของพวกเขา
  3. อาจมายึดครองโลก – ความเชื่อนี้เป็นอีกความเชื่อที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กซึ่งมันอาจไม่ใช่สิ่งเกินเลยแต่ประการใด มีความเป็นไปได้ว่าสิ่งลึกลับนอกโลกเหล่านี้อาจกำลังเรียนรู้อะไรบางอย่างจากมนุษย์จากนั้นก็เตรียมตัวเข้าจัดการด้วยการหาช่วงเวลาเหมาะๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาแบบสันติวิธีหรือการโจมตีแบบไม่ได้ตั้งตัว
  4. เป็นผู้สร้างมนุษย์โลกขึ้นมา – ในอดีตภาพประวัติศาสตร์ตามผนังของอียิปต์หรือตามโบราณสถานต่างๆ มักพบสิ่งที่แปลกประหลาดของผู้มาเยือนคาดว่าน่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาว หรือไม่ก็กลุ่มสิ่งประหลาดเหล่านี้อาจเป็นคนที่สร้างมนุษย์บนโลกขึ้นมาตั้งแต่แรกก็ได้พร้อมเฝ้ามองเราว่าเป็นสัตว์ตัวน้อยๆที่อาศัยบนดาวดวงน้อยๆ ในจักรวาลอันแสนกว้างใหญ่
  5. เป็นชาวโลกจากอนาคต – ความเชื่อนี้ก็น่าสนใจเพราะจริงแล้วพวกเขาอาจไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นชาวโลกในอนาคต ส่วน UFO อาจเป็นไทม์แมชชีน บางทีเขาอาจต้องการมาศึกษาอดีตอะไรบางอย่างก็ได้
  6. อยู่ตรงไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ – โลกของเรามันช่างกว้างใหญ่เกินบรรยาย แต่จริงๆ แล้วพวกเขาอาจเป็นชนเผ่าหนึ่งที่เคยรุ่งเรืองในอดีตแต่เกิดการล่มสลายไป ทำให้เขาอาจต้องย้ายไปอยู่ในดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของโลกที่เราไม่รู้จักก็เป็นได้เหมือนกัน เช่น ใต้ท้องทะเลลึก

หลักฐานการมีตัวตนของเอเลี่ยน มนุษย์ต่างดาว

moonalienpicture

ufoalien1

หากจะเริ่มต้นสนทนาในเรื่องของมนุษย์ต่างดาว บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ งมงาย เนื่องจากในปัจจุบันนี้ยังหลักฐานใดๆอันเด่นชัด ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามนุษย์ต่างดาว มีตัวตนจริงๆ  จนกว่าจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง หรือมีหลักฐานออกข่าวไปนู่น ที่ผ่านมาหลักฐานของมีอยู่ของมนุษย์ต่างดาว ไม่เคยออกมาปรากฏตัวให้เห็นกันแบบโจ๋งครึ่ม จะมีเพียงแค่ร่องรอยหรือหลักฐาน รวมทั้งคำกล่าวอ้างของคนที่อ้างว่าเคยพบเจอเหตุการณ์อันแปลกประหลาดมากับตัว

หลักฐานการมีตัวตนของเอเลี่ยน มนุษย์ต่างดาว

  • เมื่อปลายปีที่ผ่านมา กองทัพทหารแห่งประเทศนิวซีแลนด์ ได้ออกมาเปิดเผยเอกสารสำคัญซึ่งระบุว่า มีการพบมนุษย์ต่างดาว วัตถุลึกลับ หรือ UFO มาตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 1954 – 2009 อีกทั้งยังมีรูปวาดสเก็ตช์ของจานบิน และรายละเอียดเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวซึ่งสวมหน้ากากฟาโรห์ อันเป็นวัฒนธรรมของชาวอียิปต์ รวมทั้งตัวอย่างของภาษาเขียนจากนอกโลกด้วย
  • เป็นระยะเวลานานมาแล้ว ความลึกลับในการมาเยือนอย่างไม่เป็นทางการของพวกมัน ทำให้เหล่ามนุษย์โลกต่างพากันสงสัย และเกิดอยากรู้อยากเห็น มนุษย์ต่างดาวตัวจริง โดยในช่วง 2 ปีมานี้ เริ่มมีเค้าลางให้เห็นว่า พวกมันกำลังบุกเข้ามาโลกของเราแล้ว เนื่องจากมีหลักฐานมากมายซึ่งระบุว่า พวกมันมาพร้อมกับพาหนะที่บินบนท้องฟ้าอันมีความเร็วแบบล่องหน
  • เมื่อเดือนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินของ Siberia อ้างว่า เขาได้ยินเสียงของวัตถุลึกลับ ซึ่งมีเสียงมนุษย์อันเป็นลักษณะของเสียงผู้หญิง แต่สัญญาณดังกล่าวเป็นภาษาที่ไม่อาจเข้าใจได้ เหนือพื้นที่ เมือง Yakutsk  ประเทศรัสเซีย วัตถุดังกล่าวมีการเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก มีความเร็วขนาด 6,000 ไมล์/ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็ว
  • ณ นคร Jerusalem มีผู้บันทึกภาพวัตถุประหลาด เป็นแสงไฟส่องสว่างลักษณะคล้ายลูกบอล อยู่เหนือแท่นบูชาศาสนสถาน ลูกไฟนี้มีการเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ ก่อนที่มันจะพุ่งขึ้นฟ้าหายลับไป
  • ในประเทศไทยของเราเอง ก็มีการอ้างว่า พบมนุษย์ต่างดาวและมีผู้บันทึกภาพได้ เรื่องก็คือว่ามี พนักงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแห่งหนึ่งได้ขึ้นไปชมความงดงามของธรรมชาติ ใกล้กับสถานปฏิบัติธรรม ณ วัดถ้ำพระภูวัว อ.เซกา จ.หนองคาย เขาก็ได้บันทึก VDO ภาพความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในบริเวณนั้น เพื่อเก็บไว้ให้เพื่อนๆดู แต่พอนำคลิปนั้นกลับมาดูในจอขนาดใหญ่ ก็พบว่ามีวัตถุลึกลับบินผ่านไปอย่างรวดเร็ว พร้อมมีการตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเป็นเครื่องบินรบหรือเฮลิคอปเตอร์ ก็ไม่น่าจะบินได้เร็วหรือเงียบเชียบขนาดนั้น โดยได้มีการทดสอบด้วยการนำกล้องตัวเดียวกันนี่แหละ ไปถ่ายภาพเฮลิคอปเตอร์ขณะบิน ปรากฏว่าใบพัดก็ยังช้ากว่าวัตถุที่ปรากฏในคลิปอยู่มาก

หลักฐานความเชื่อที่เกิดขึ้นว่า UFO มีอยู่จริง

belive_ufo

มีหลายทฤษฎีที่บ่งบอกว่า UFO ที่นำพามนุษย์ต่างดาวเข้ามายังโลกของเรามีจริงในขณะอีกหลายภาคส่วนก็มองว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเหลวไหล ไร้สาระ หาความจริงไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานอะไรสามารถยืนยันเรื่องราวตรงนี้ได้เลย จึงเกิดเป็นเรื่องที่มีคนเคยนำเอาหลักฐานมานำเสนอว่าสิ่งเหล่านี้พอจะช่วยทำให้เชื่อได้ว่า UFO บินพามนุษย์ต่างดาวมาจากนอกโลกเป็นเรื่องจริงสุดๆ

หลักฐานชิ้นสำคัญที่บอกว่า UFO มีอยู่จริง

  1. Crop Circles วงกลมสุดประหลาดกลางทุ่ง – สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พบได้ในหลายพื้นที่ของทวีปยุโรป บริเวณพบเจอคือกลางทุ่งข้าวบาร์เล่ย์, ข้าวโพด, ถั่วเหลือง, ข้าวสาลี ถูกพบครั้งแรกที่อังกฤษเมื่อปี 1678 ลักษณะคือพืชจะล้มลงโดยก้านไม่หักแต่งอลงราว 1 นิ้วจากพื้นดิน เป็นรูปทรงเรขาคณิตที่สลับซับซ้อนมาก กระทั่งปัจจุบันมรายงานการพบสิ่งดังกล่าวกว่าหมื่นครั้ง
  2. สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา – บริเวณตอนใต้ของสหรัฐฯ มหาสมุทรแอตแลนติก ตะวันตก ที่ทุกวันนี้ยังค้นหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมเวลามีอะไรผ่านเข้าไปบริเวณนั้นจึงต้องหายสาบสูญทั้งหมด ทฤษฎีหนึ่งที่มีคนเคยกล่าวเอาไว้คือ อาจมีมนุษย์หรือมนุษย์ต่างดาวอาศัยใต้มหาสมุทร ต้องการนำเอาเรือ เครื่องบิน พร้อมมนุษย์ลงไปเพื่อศึกษาอะไรบางอย่าง
  3. กลุ่มหินปริศนาสโตน เฮนจ์ – ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ บริเวณทุ่งราบซัลลิสเบอร์รี่ มีหินทั้งหมด 112 ก้อน ตั้งเรียงเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง มีลักษณะการวางต่างกัน คิดว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ 3,000 – 2,000 ปีก่อนคริสตกาล หินแต่ละก้อนมีอายุไม่เท่ากัน นำมาจากต่างที่กัน อีกทั้งมันหนักมากๆ หินจะมากองอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร เป็นเรื่องที่ไม่มีใครหาคำตอบได้จริงๆ
  4. เมืองโบราณที่ไม่รู้ผู้สร้าง – ในประเทศเม็กซิโก ห่างจากเม็กซิโก ซิตี้ 40 กม. เมืองโบราณแห่งยุคเมโส – อเมริกัน ชาวแอชเท็กเป็นผู้คนพบพร้อมตั้งชื่อให้ว่า City of the Gods ตอนมาพบก็เป็นเมืองร้างจึงทำให้ไม่รู้แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง เชื่อว่าน่าจะมีอายุกว่า 2 พันปี และเริ่มตั้งถิ่นฐาน 100 ปีก่อนคริสตกาล คิดว่าน่าจะเคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรอะไรบางอย่างมาก่อน
  5. ลายเส้นขนาดยักษ์มองจากฟากฟ้า – ในราบนาชก้า เปรู ลักษณะการเขียนของเส้นค่อนข้างจงใจ ประณีต ขนาดใหญ่ถึง 200 ม. ครอบคลุมเนื้อที่ 500 ตร.กม. ท้าแดดฝนมากว่า 2 พันปี มีแต่ภาพวาดทรงเรขาคณิตไปจนถึงรูปสัตว์ต่างๆ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักฐานทางความเชื่อที่ว่ามนุษย์ต่างดาวอาจเคยบินเข้ามาจาก UFO เพื่อทำอะไรสักอย่างกับโลกของเรา เป็นความเชื่อที่ยังหาข้อพิสูจน์ชัดเจนไม่ได้